ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ รามคำแหง

วันพุธที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

Microsoft Excel Tips and Tricks: การใช้ VBA สร้าง Code จากรายชื่อตามเงื่อนไขที่กำหน...

มีเพื่อนสมาชิกใน Pantip ได้สอบถามถึงโปรแกรมหรือใช้ฟังก์ชั่นของ Excel ในการสร้าง Code ตามเงื่อนไข ซึ่งต้องการจัดเก็บประวัติเรียงตามตัวอักษรตัวแรกของชื่อ แล้วตามด้วยตัวเลขตามอักษรอีก 3 หลัก และมีเครื่องหมาย “-“ คั่นระหว่างชื่อและนามสกุล โดยแสดงชื่อและนามสกุลเป็นเลข 4 หลัก เท่านั้น โดยมีเงื่อนไขการเปลี่ยนตัวอักษรเป็นตัวเลขดังนี้

ก – ง แทนด้วยหมายเลข 1 ( ก ข ค ฆ ง)
จ – ญ แทนด้วยหมายเลข 2 (จ ฉ ช ซ ฌ ญ )
ฎ – ณ แทนด้วยหมายเลข 3 (ฎ ฏ ฐ ฑ ฒ ณ)
ด – น แทนด้วยหมายเลข 4 (ด ต ถ ท ธ น)
บ – ฟ แทนด้วยหมายเลข 5 (บ ป ผ ฝ พ ฟ)
ภ – ฤ แทนด้วยหมายเลข 6 (ภ ม ย ร ล ว ฤ)
ศ – ฮ แทนด้วยหมายเลข 7 (ศ ษ ส ห ฬ อ ฮ)

ตัวอย่าง
เพทาย บรรจง เลขรหัสในการค้นหาคือ พ460-5662
ประชุม แก่นทรัพย์ เลขรหัสในการค้นหาคือ ป626-1446

หมายเหตุ
  1. หากชื่อหรือนามสกุลในหลักใดไม่มีตัวอักษรให้แสดงเป็นเลข 0
  2. นับเฉพาะตัวอักษรเท่านั้น
ในช่วงรอชมฟุตบอลโลก 2010 คู่ชิงที่ 3 ระหว่างเยอรมันและอุรุกวัยผมได้ลองเขียน Code VBA เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว ซึ่งพบว่าสามารถให้คำตอบที่ถูกต้องตามที่โจทย์ถามมา โดยได้เขียนเป็นฟังก์ชั่นชื่อ GenerateCode มีรายละเอียดตามด้านล่างครับ
  1. เข้าโปรแกรม Excel
  2. กดแป้น Alt+F11 เพื่อเปิด VBE
  3. เลือกเมนู Insert > Module
  4. Copy Code ด้านล่างไปวาง

    Option Explicit
    Function GenerateCode(r As Variant) As String
        Dim i As Integer, k As Integer
        Dim t As String, tt As String
        Dim t0 As String, t1 As String
        Dim t22 As String
        tt = Left(r, Application.Find(" ", r) - 1) & "000"
        t22 = Mid(r, Application.Find(" ", r) + 1, 255) & "000"
            Select Case Mid(r, 1, 1)
                Case "เ", "ไ", "ใ", "โ", "แ"
                    t1 = Mid(r, 2, 1)
                    k = 3
                Case Else
                    t1 = Left(r, 1)
                    k = 2
            End Select
        For i = k To Len(tt)
            Select Case Mid(tt, i, 1)
                Case "ก", "ข", "ค", "ฆ", "ง"
                        t = t & 1
                Case "จ", "ฉ", "ช", "ซ", "ฌ", "ญ"
                        t = t & 2
                Case "ฎ", "ฏ", "ฐ", "ฑ", "ฒ", "ณ"
                        t = t & 3
                Case "ด", "ต", "ถ", "ท", "ธ", "น"
                        t = t & 4
                Case "บ", "ป", "ผ", "ฝ", "พ", "ฟ"
                        t = t & 5
                Case "ภ", "ม", "ย", "ร", "ล", "ว", "ฤ"
                        t = t & 6
                Case "ศ", "ษ", "ห", "ฬ", "อ", "ฮ"
                        t = t & 8
                Case 0
                        t = t & 0
            End Select
        Next
        For i = 1 To Len(t22)
            Select Case Mid(t22, i, 1)
                Case "ก", "ข", "ค", "ฆ", "ง"
                     t0 = t0 & 1
                Case "จ", "ฉ", "ช", "ซ", "ฌ", "ญ"
                     t0 = t0 & 2
                Case "ฎ", "ฏ", "ฐ", "ฑ", "ฒ", "ณ"
                      t0 = t0 & 3
                Case "ด", "ต", "ถ", "ท", "ธ", "น"
                      t0 = t0 & 4
                Case "บ", "ป", "ผ", "ฝ", "พ", "ฟ"
                      t0 = t0 & 5
                Case "ภ", "ม", "ย", "ร", "ล", "ว", "ฤ"
                      t0 = t0 & 6
                Case "ศ", "ษ", "ห", "ฬ", "อ", "ฮ"
                      t0 = t0 & 8
                Case 0
                      t0 = t0 & 0
            End Select
        Next
        GenerateCode = t1 & Left(t, 3) & "-" & Left(t0, 4)
    End Function

  5. กดแป้น Alt+Q เพื่อกลับไปยังโปรแกรม Excel 
  6. สมมุติ ข้อมูลชื่ออยู่ที่คอลัมน์ A เริ่มที่ A1 ที่ B1 คีย์
    =GenerateCode(A1)Enter > Copy ลงด้านล่าง

Note: หากยังไม่ได้กำหนดให้โปรแกรมใช้ Macro ได้ ให้เข้าไปกำหนดที่ Tools > Macro > Security > กำหนดเป็น Medium หรือ Low หากกำหนดเป็น Medium จะต้อง คลิกยอมรับการใช้งาน Macro ตอนเปิดไฟล์ด้วยครับ

ภาพตัวอย่างการใช้งาน

GenerateCode

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น