วันนี้(7 พ.ย.) ที่รัฐสภา พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ ส.ว.สรรหา
ในฐานะอดีตรอง
ผบ.ตร.กล่าวถึงการจับกุมอาวุธสงครามบริเวณภาคเหนือจนโยงไปสู่ข่าวการลอบ
สังหาร พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯที่จะเดินทางมายัง จ.ท่าขี้เหล็ก
ประเทศพม่า ว่า ข่าวการลอบสังหาร พ.ต.ท.ทักษิณ จะมีมูลหรือไม่
เป็นเรื่องความรู้สึกนึกคิดของบุคคล ที่อาจมีความคิดเห็นแตกต่างออกไป
แต่สำหรับ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้มีส่วนได้เสียโดยตรงในเรื่องนี้
อาจมีความเชื่อว่า อาจถูกลอบสังหารจริง
เพราะที่ผ่านมาเคยถูกลอบสังหารมาแล้วหลายครั้ง จึงเชื่อว่ามีมูล
ซึ่งเป็นธรรมดาที่คนเคยถูกปองร้ายก็จะต้องมีความระแวงสงสัยว่าอาจถูกปองร้าย
อีก ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ เพราะเคยถูกลอบปองร้ายมาแล้ว เมื่อมีเหตุการณ์ใดๆ
เกิดขึ้นก็ย่อมเป็นธรรมดาที่จะต้องมีความสงสัยและเชื่อไปเช่นนั้น
“เท่าที่ผมจำได้ ครั้งแรกที่มีการระเบิดเครื่องบิน ของสายการบินไทยที่สนามบินดอนเมือง ผมได้รับการแต่งตั้งให้เข้าไปสอบสวนในเรื่องนี้ถ้าวันนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางมาขึ้นเครื่องตามหมายกำหนดการ ก็คงถูกระเบิดไปพร้อมเครื่องบิน ไปแล้ว แต่เผอิญ พ.ต.ท.ทักษิณ แวะที่อื่นก่อนจึงเดินทางมาล่าช้ากว่ากำหนดเครื่องบินจึงระเบิดไปก่อน ผมเป็นคนเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นคนแรก พร้อมผู้เชี่ยวชาญของไทย และต่อมาก็มีการเชิญผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศมาร่วมตรวจสอบสาเหตุระเบิดแต่ ในที่สุดคดีดังกล่าวก็ยุติลงไปโดยมีความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญว่าเครื่องบิน จอดตากแดดนานเกินไปจนเกิดความร้อนไปถึงถังน้ำมันเชื้อเพลิงจนเกิดระเบิด ขึ้น”พล.ต.อ.จงรักกล่าว และว่าจึงเป็นที่เคลือบแคลงสงสัย เพราะตนเห็นเครื่องบินทั่วไปไม่ว่าที่ไหนใน โลกก็จอดตากแดดกันทั้งนั้น ไม่เห็นระเบิดเลย โดยเฉพาะในประเทศแอฟริกาหรือตะวันออกกลางที่อากาศร้อนก็ยังไม่ได้ข่าวว่ามี การระเบิด
พล.ต.อ.จงรัก กล่าวด้วยว่า จากนั้นก็มีข่าวการลอบวางระเบิด พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ ถนนจรัลสนิทวงศ์ เชิงสะพานซังฮี้ โดยใช้เครื่องจุดระเบิด กะระยะเวลาที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางออกจากบ้านจันทร์ส่องหล้า ย่านบางพลัด แต่เผอิญ พ.ต.ท.ทักษิณออกจากบ้านก่อนกำหนด คนร้ายจึงกระทำการไม่สำเร็จ เพราะไม่ตรงเวลาที่คาดการณ์ไว้ และนอกจากนั้นก็อาจมีเหตุการณ์ อื่น ๆ อีก ส่วนคนที่ไม่เคยถูกปองร้ายมาเลย นั่งอ่านข่าวหนังสือพิมพ์ดูตอนเช้าก็อาจไม่เชื่อเพราะไม่เคยมีศัตรู และไม่มีส่วนได้เสียใด อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาดูเหตุการณ์ที่ผ่านมา ข้อเท็จจริงน่าจะเป็นที่ยุติได้ว่าที่ผ่านมามีคนต้องการจะสังหาร พ.ต.ท.ทักษิณ จริง แต่ปัจจุบันนี้จะมีคนต้องการสังหารหรือไม่ ก็คงต้องติดตามผลการสืบสวนของผู้เกี่ยวข้องต่อไป
“เท่าที่ผมจำได้ ครั้งแรกที่มีการระเบิดเครื่องบิน ของสายการบินไทยที่สนามบินดอนเมือง ผมได้รับการแต่งตั้งให้เข้าไปสอบสวนในเรื่องนี้ถ้าวันนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางมาขึ้นเครื่องตามหมายกำหนดการ ก็คงถูกระเบิดไปพร้อมเครื่องบิน ไปแล้ว แต่เผอิญ พ.ต.ท.ทักษิณ แวะที่อื่นก่อนจึงเดินทางมาล่าช้ากว่ากำหนดเครื่องบินจึงระเบิดไปก่อน ผมเป็นคนเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นคนแรก พร้อมผู้เชี่ยวชาญของไทย และต่อมาก็มีการเชิญผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศมาร่วมตรวจสอบสาเหตุระเบิดแต่ ในที่สุดคดีดังกล่าวก็ยุติลงไปโดยมีความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญว่าเครื่องบิน จอดตากแดดนานเกินไปจนเกิดความร้อนไปถึงถังน้ำมันเชื้อเพลิงจนเกิดระเบิด ขึ้น”พล.ต.อ.จงรักกล่าว และว่าจึงเป็นที่เคลือบแคลงสงสัย เพราะตนเห็นเครื่องบินทั่วไปไม่ว่าที่ไหนใน โลกก็จอดตากแดดกันทั้งนั้น ไม่เห็นระเบิดเลย โดยเฉพาะในประเทศแอฟริกาหรือตะวันออกกลางที่อากาศร้อนก็ยังไม่ได้ข่าวว่ามี การระเบิด
พล.ต.อ.จงรัก กล่าวด้วยว่า จากนั้นก็มีข่าวการลอบวางระเบิด พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ ถนนจรัลสนิทวงศ์ เชิงสะพานซังฮี้ โดยใช้เครื่องจุดระเบิด กะระยะเวลาที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางออกจากบ้านจันทร์ส่องหล้า ย่านบางพลัด แต่เผอิญ พ.ต.ท.ทักษิณออกจากบ้านก่อนกำหนด คนร้ายจึงกระทำการไม่สำเร็จ เพราะไม่ตรงเวลาที่คาดการณ์ไว้ และนอกจากนั้นก็อาจมีเหตุการณ์ อื่น ๆ อีก ส่วนคนที่ไม่เคยถูกปองร้ายมาเลย นั่งอ่านข่าวหนังสือพิมพ์ดูตอนเช้าก็อาจไม่เชื่อเพราะไม่เคยมีศัตรู และไม่มีส่วนได้เสียใด อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาดูเหตุการณ์ที่ผ่านมา ข้อเท็จจริงน่าจะเป็นที่ยุติได้ว่าที่ผ่านมามีคนต้องการจะสังหาร พ.ต.ท.ทักษิณ จริง แต่ปัจจุบันนี้จะมีคนต้องการสังหารหรือไม่ ก็คงต้องติดตามผลการสืบสวนของผู้เกี่ยวข้องต่อไป
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น